วิธีใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดบ้าน 7 เทคนิคต้องรู้
เบกกิ้งโซดา (Baking Soda) เป็นสารอเนกประสงค์ที่หาซื้อได้ง่ายและราคาประหยัด นอกจากใช้ในการทำอาหารแล้ว เบกกิ้งโซดายังเป็นตัวช่วยทำความสะอาดที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำยาทำความสะอาดอีกด้วย
เบกกิ้งโซดาทำอะไรได้บ้าง ? : 7 ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดา
ขจัดกลิ่นอับในตู้เสื้อผ้าและรองเท้า
เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นได้อย่างดีเยี่ยม เพียงคุณนำเบกกิ้งโซดาใส่ในถ้วยเล็ก ๆ หรือถุงผ้าที่มีรูระบายอากาศแล้ววางไว้ในตู้เสื้อผ้าหรือในรองเท้า ก็จะช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่นอับที่ไม่พึงประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรเปลี่ยนเบกกิ้งโซดาทุก 1-2 เดือนเพื่อประสิทธิภาพในการขจัดกลิ่นอับในตู้ที่ดีที่สุด
ทำความสะอาดห้องน้ำและขจัดคราบหินปูน
เบกกิ้งโซดาสามารถใช้ขจัดคราบสกปรกและคราบหินปูนในห้องน้ำได้อย่างดี โดยผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำให้เป็นส่วนผสมที่มีเนื้อข้น แล้วทาบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นใช้แปรงขัดเบา ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด นอกจากนี้ยังสามารถใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาดอ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ และสุขภัณฑ์ต่าง ๆ ให้เงางามได้อีกด้วย
ดับกลิ่นในตู้เย็นและถังขยะ
กลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็นและถังขยะเองก็สามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยเบกกิ้งโซดา เพียงวางถ้วยเบกกิ้งโซดาไว้ในตู้เย็น หรือโรยเบกกิ้งโซดาที่ก้นถังขยะก็จะช่วยดูดซับกลิ่นเหม็นและความชื้นได้อย่างดี โดยควรเปลี่ยนเบกกิ้งโซดาทุกเดือนสำหรับตู้เย็น และทุกครั้งที่ล้างถังขยะ
ขจัดคราบไขมันในครัว
อีกประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาคือการขจัดคราบน้ำมันและไขมันในครัว เพียงโรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบไขมันและพรมน้ำเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วเช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เบกกิ้งโซดาก็จะช่วยย่อยสลายคราบไขมันและทำให้พื้นผิวสะอาดได้โดยไม่ทำลายพื้นผิวเคาน์เตอร์และเตาไฟฟ้า
ทำความสะอาดพรมและเฟอร์นิเจอร์
สำหรับพรมและเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอับหรือคราบสกปรกสามารถใช้เบกกิ้งโซดาช่วยได้ โดยโรยเบกกิ้งโซดาให้ทั่วบริเวณที่ต้องการทำความสะอาด ทิ้งไว้อย่างน้อย 15-30 นาที หรือข้ามคืนสำหรับพรมและเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นรุนแรง จากนั้นดูดฝุ่นออกให้หมดก็จะช่วยให้พรมและเฟอร์นิเจอร์สะอาดและมีกลิ่นหอมสดชื่นขึ้น
ดูดซับกลิ่นอับชื้น
ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีกลิ่นอับ เช่น ห้องใต้ดิน ห้องเก็บของ หรือตู้เก็บหนังสือ คุณสามารถวางถ้วยเบกกิ้งโซดาไว้เพื่อช่วยดูดซับความชื้นและกลิ่นอับได้ โดยควรเปลี่ยนเบกกิ้งโซดาทุก 2-3 เดือน หรือเมื่อสังเกตว่าประสิทธิภาพในการดูดซับกลิ่นอับชื้นลดลง
ทำความสะอาดเครื่องใช้ในครัว
เบกกิ้งโซดาสามารถใช้ทำความสะอาดเครื่องใช้ในครัวได้หลากหลาย เช่น หม้อ กระทะ เตาอบ และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำให้เป็นเนื้อข้น ๆ ทาลงบนพื้นผิวที่ต้องการทำความสะอาด ทิ้งไว้สักครู่ แล้วขัดเบา ๆ ด้วยฟองน้ำหรือผ้านุ่ม จะช่วยขจัดคราบสกปรกและทำให้เครื่องใช้ที่มีคราบดำสะอาดเงางามขึ้นได้
ข้อควรระวังในการใช้เบกกิ้งโซดา
ข้อควรระวังทั่วไป
แม้ว่าเบกกิ้งโซดาจะมีประโยชน์หลากหลายและปลอดภัยต่อการใช้งาน แต่ควรระวังไม่ให้เข้าตาหรือสูดดมโดยตรง คุณควรสวมถุงมือยางเมื่อต้องสัมผัสกับเบกกิ้งโซดาเป็นเวลานาน และควรทดสอบบนพื้นผิวเล็ก ๆ ก่อนใช้งานจริงทุกครั้ง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
พื้นผิวที่ไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาทำความสะอาด
ไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดากับพื้นผิวที่เป็นหินอ่อน หินแกรนิต ไม้เคลือบเงา หรือพื้นผิวที่มีความบอบบาง เนื่องจากอาจทำให้พื้นผิวเกิดความเสียหายได้ นอกจากนี้ ไม่ควรใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการเคลือบพิเศษ เพราะอาจทำให้การเคลือบเสียหายได้เช่นกัน
สิ่งที่ห้ามผสมกับเบกกิ้งโซดา
ห้ามผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำส้มสายชู หรือสารที่มีความเป็นกรดสูง เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่รุนแรง และอาจเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ ไม่ควรผสมกับน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอรีนหรือแอมโมเนีย เพราะอาจทำให้เกิดก๊าซพิษได้
แม้ว่าเบกกิ้งโซดาจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการทำความสะอาดบ้าน แต่หากคุณต้องการความสะดวกสบายและการทำความสะอาดที่เป็นมืออาชีพ DoingWell พร้อมให้บริการรักษาความสะอาด และรับจ้างทำความสะอาดโดยแม่บ้านที่ผ่านการอบรม มากด้วยประสบการณ์ ทั้งแบบรายชั่วโมง รายวัน และรายเดือน เพื่อดูแลอาคารสำนักงานและสถานประกอบการของคุณให้สะอาดอย่างมืออาชีพ ปลอดภัย และไว้วางใจได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-075-5151 หรือ E-mail : info@doingwell.co.th
ข้อมูลอ้างอิง
- Cleaning Chemicals Don’t Mix. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567. จาก https://centralcountyfire.org/tips/dont-mix-cleaners/